Русские видео

Сейчас в тренде

Иностранные видео


Скачать с ютуб วิธีแยกอาการปวดหัวทั้ง 4 แบบ в хорошем качестве

วิธีแยกอาการปวดหัวทั้ง 4 แบบ 3 года назад


Если кнопки скачивания не загрузились НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru



วิธีแยกอาการปวดหัวทั้ง 4 แบบ

#รักษาให้ถูก #ปวดหัวรักษาได้ #สาเหตุที่พบบ่อย ปวดหัวตุ๊บ ๆ ปวดบีบ ๆ ปวดข้างเดียว ปวดเบ้าตา ปวดน้ำตาไหล อาการที่แสดงออกมาต่างกันรวมทั้งตำแหน่ง และอาการปวด ทำไรเราสามารถแยกสาเหตุได้คร่าว ๆ ค่ะ ซึ่งจะมี 4 แบบที่เจอกันบ่อย ๆ ดังนี้ค่ะ 1.อาการปวดจากกล้ามเนื้อตึง (tension type headache) 2.อาการปวดไมเกรน 3.อาการปวดคลัสเตอร์ 4.อาการปวดจากไซนัส 1.อาการปวดจากกล้ามเนื้อตึง หรือ tension type อาการปวดศีรษะแบบนี้ เจอได้บ่อยที่สุดเลย คนไข้จะมีอาการปวดเหมือนมีอะไรมาบีบหรือรัดที่ศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ หน้าผาก ขมับ หรืออาจจะลามไปถึงท้ายทอยได้ อาการปวดชนิดนี้มักจะไม่ได้รุนแรง ปวดแค่พอรำคาญ มึนๆ ยังฝืนทำงานได้ แต่อาจจะรู้สึกเหมือนหัวไม่โล่ง อาจคลื่นไส้แต่ไม่ถึงขั้นอาเจียน อาการนี้ ทานแค่ยาแก้ปวดเช่น พาราเซตามอล ก็อาจจะดีขึ้น หรืออาจจะหายได้เอง ถ้าได้พักผ่อน ส่วนใหญ่ มักเกิดจากความเครียด นอนไม่หลับ ทำงานเยอะ หรือการนั่งทำงานนานๆจนเกิดไป หรือมีอาการปวด ตึง คอ บ่าไหล่ ก็กระตุ้น อาการปวดแบบนี้ได้ค่ะ 2.ไมเกรน เป็นอาการปวดบ่อยอันดับ 2 เลยค่ะ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่น วัยทำงาน สัก20-40 ปี จะเจอได้ถึง 20% เลยค่ะ ในกลุ่มเพื่อน 10 คน จะต้องมีเพื่อนเป็นไมเกรน อย่างน้อยสัก 2 คนแล้ว คนก็เลยจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ และอาจจะได้ยามาทาน ทั้งๆที่เราก็อาจจะไม่ใช่ไมเกรนก็ได้ ส่วนวิธีเช็คอาการ ง่ายๆ ว่าเราเป็นไมเกรนหรือเปล่าก็ 4 ข้อเลยค่ะ หมอใช้จำว่า P U M A P - pulsatile คือ อาการปวดจะค่อนข้างจำเพาะ จะปวดแบบตุ๊บๆ เหมือนเส้นเลือดตุ๊บๆ U - unilateral คือมักจะปวดข้างเดียว โดยเฉพาะบริเวณขมับไปถึงท้ายทอยได้ แต่บางคนที่เป็นบ่อยๆ ก็อาจจะมีอาการสลับข้างไปมาได้ หรือถ้าเเป็นเยอะมาก ก็ลามไป 2 ข้างได้ค่ะ M - moderate intensity คือจะปวดค่อนข้างรุนแรง ปวดมากกว่าสาเหตุจากกล้ามเนื้อตึง ปวดจนอาเจียน A - aggravate by activity เวลาทำงานหรือออกแรง แล้วมีอาการปวดมากขึ้น เช่น การเดิน หรือการขึ้นบันได เวลาปวดแต่ละครั้งก็จะค่อนข้างรุนแรงและนาน หลายชม. เช่น 3-4 ชั่วโมง ไปจนถึง 2-3 วันได้ ต้องนอนพัก อยู่ในที่นิ่งๆ เงียบๆ หรือต้องทานยาจึงจะดีขึ้น มักไม่ค่อยหายได้เอง ถ้ายิ่งมีเสียงดังๆ หรือแสงจ้าๆ ก็อาจจะกระตุ้นได้ อาการปวดศีรษะไมเกรนนี้ เกิดจากมีปัจจัยมากระตุ้น เกิดการกระตุ้นระบบเส้นเลือดและเส้นประสาทที่สมอง ทำให้เกิดการหลั่งสารบางตัว CGRP ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว และเกิดเป็นความปวดขึ้นมา ซึ่งปัจจัยกระตุ้นก็มีได้เยอะมาก ตั้งแต่ กลิ่น อาหารบางอย่าง ฮอร์โมน เช่นประจำเดือน อากาศร้อนๆ ความเครียด อดนอน ซึ่งในรายละเอียดและการรักษา หมอจะขอพูดในคลิปไมเกรนอีกทีนึงนะคะ เพราะมีรายละเอียดเยอะมากเลยค่ะ แต่คร่าวๆ ก็คือ หมอแนะนำว่า ถ้าคนที่เป็นไมเกรน ก็ควรจะไปพบแพทย์นะคะ ที่เจอปัญหาบ่อยมากคือ คนไข้มักจะไปซื้อยามาทานเอง ซึ่งมีข้อเสียคือ 1. อาจจะไม่ได้เป็นไมเกรน แล้วได้ยาไม่ถูกจุด หรือ 2 . เป็นไมเกรนจริงๆ แต่กินยาเอง จนสุดท้าย อาจจะปวดศีรษะจากยาแทนได้ค่ะ 3.คลัสเตอร์ อาการปวดชนิดนี้ ก็จะคล้ายๆกับไมเกรน เจอได้ไม่บ่อย มักจะเจอในผู้ชายมากกว่า ในกลุ่มช่วงอายุสัก 30-50 ปี ลักษณะอาการปวด จะปวดเด่น ที่กระบอกตา ปวดในลูกตา จนรู้สึกมีตาแดง น้ำตาไหล หนังตาตกร่วมด้วยได้ เพราะมีการกระตุ้นของเส้นประสาทใบหน้าร่วมด้วย คนไข้กลุ่มนี้ เวลาปวดมักจะทรมานมาก กระสับกระส่าย แต่อาการจะเป็นช่วงสั้นๆกว่า ประมาณ 15 นาที จนถึงไม่เกิน 3 ชั่วโมง คำว่าคลัสเตอร์ แปลว่าเป็นชุดๆ เป็นกลุ่มก้อน คนไข้กลุ่มนี้จะมีลักษณะจำเพาะ คือ เวลาปวด มักจะมาเป็นชุดๆ เวลาเดิมๆ ช่วงเวลาเดิมๆ ซ้ำๆกันค่ะ เช่นบางคนเป็นฤดูหนาว พอปีหน้า ช่วงเวลาเดียวกัน ก็อาจจะเป็นใหม่ และก็อาจจะกระตุ้นจากปัจจัยอื่นๆ ได้เช่นกัน เช่น อดนอน ความเครียด อากาศเปลี่ยน คนไข้กลุ่มนี้นะคะ เวลาปวด แล้วไปซื้อยาทานเองมักไม่ค่อยหายค่ะ เพราะ มักจะไม่ได้ตอบสนองต่อยาแก้ปวดทั่วๆไป อย่างเช่น พารา หรือพวก ibuprofen ต้องใช้ยาที่ค่อนข้างจำเพาะ 4.ไซนัส กลุ่มสุดท้าย ที่เจอได้ อาจจะไม่ได้เป็นโรคปวดศีรษะโดยตรง แต่ก็เป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะได้บ่อย คือ ไซนัสอักเสบค่ะ เพราะ ตำแหน่งของโพรงไซนัส จะอยู่รอบๆจมูก เหนือคิ้ว ทำให้เวลามีอาการอักเสบ การบวมของไซนัส หรือมีการติดเชื้อ ก็จะเกิดขบวนการอักเสบ บวม แดง ร้อน ทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปบริเวณรอบๆได้ ก็เลยปวดหัวได้ แต่คนไข้กลุ่มนี้ ก็จะมีอาการของไซนัสค่ะ เช่น คัดจมูก มีน้ำมูก โดยเฉพาะถ้ามีกลิ่นเหม็น รู้สึกแน่นๆ บริเวณจมูกหรือใบหน้า หรืออาจจะมีไข้ต่ำๆได้ ซึ่งอันนี้ก็ต้องให้หมอ หู คอ จมูก ตรวจรักษาต่อไปค่ะ คลิปนี้ หมอก็สรุปสั้นๆ โรคปวดศีรษะที่เจอได้บ่อยค่ะ จริงๆแล้วอาการปวดศีรษะยังมีอีกมากมายเลย ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่มีอาการปวดศีรษะ จะได้แยกอาการของตัวเองได้คร่าวๆ และรู้ว่าอาการแบบไหน ควรจะต้องไปพบแพทย์ และหลายๆ สาเหตุของอาการปวดศีรษะ ก็มักจะกระตุ้น มาจากความเครียด อดนอน เพราะฉะนั้น เราอาจจะดูแลตัวเองคร่าวๆได้ด้วยการ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากๆ ไม่เครียดจนเกินไป และหาเวลาออกกำลังกายบ้างนะคะ หมอนุ่ม พญ.ศุภมาศ วิบูรณ์สุขสันต์ แพทย์เฉพาะทางด้านสมองและระบบประสาท (รพ.ศิริราช) เกียรตินิยมอันดับ 1 (3.84) ต้องการนัดหมายปรึกษาคุณหมอนุ่ม เฮชเอทคลินิก Line : https://bit.ly/3azb1o5 Tel : 062-509-5888 ติดตาม หมอนุ่ม ผ่านทาง 🥰 FB H8 Clinic :  / h8clinic   FB คุยเรื่องสมอง :   / doctornum   IG H8 Clinic :   / h8clinic   TIkTok คุยเรื่องสมอง :   / drnum_brain   ชมรมคนปวดไมเกรน โดยหมอนุ่ม :   / dr.num   #เฮชเอทคลินิก #กายภาพบำบัด #ปวดศีรษะ #ไมเกรน #โดยแพทย์เฉพาะทาง #หมอนุ่ม #pms

Comments