Русские видео

Сейчас в тренде

Иностранные видео


Скачать с ютуб กฎแรงดึงดูดและ Facebook Algorithm в хорошем качестве

กฎแรงดึงดูดและ Facebook Algorithm 6 лет назад


Если кнопки скачивания не загрузились НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru



กฎแรงดึงดูดและ Facebook Algorithm

สวัสดีครับ อย่าลืมกดติดตาม Channel นี้ไว้ เพื่อไม่ให้พลาดคลิปต่อๆไปนะครับ ^^ คลิก : http://bit.ly/youtube_channel_subscribe Facebook : http://bit.ly/FB_fanpage_youtube_des Website : http://bit.ly/pakorn_homepage_youtube... LINE ID : http://bit.ly/LINEat_youtube_des (@pakorn.in.th) Podcast : http://bit.ly/soundcloud_youtube_des #GoogleAdwords #FacebookAds #โฆษณาGoogle #โฆษณาFacebook #GoogleAnalytics #OnlineMarketing #DigitalMarketing #การตลาดออนไลน์ Facebook มี Algorithm ในการเลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างไรให้เรา ผมเชื่อว่าหลายท่านนะครับคงเคยสงสัยว่า Facebook โฆษณา ที่เรายิงโฆษณาลงไปและเราได้มีการเลือกเงื่อนไขของการเลือกกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น อายุ เพศ การศึกษา ตำแหน่งงานและที่สำคัญที่สุด คือ ความสนใจ หลายท่านสงสัยว่าเวลาเราเลือกความสนใจหรือว่า Interest ในการตั้งค่าโฆษณาใน Facebook แล้ว Facebook มีวิธีการจับกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในเรื่องนั้นให้ตรงกับที่เราเลือกได้อย่างไร เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Facebook มี Algorithm ในการเลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างไรให้เรา อธิบายในรูปของ "กฎแรงดึงดูด" ผมเชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ยิน เรื่องกฎแรงดึงดูดมาบ้างหรือว่าถ้าท่านไม่เคยได้ยินนะครับ ลองฟังในคลิปนี้ดูก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าตัวผมเองเป็นคนที่ใช้คำว่าเกลียดเรื่องงมงายเลยนะ การดูดวง เรื่องโชคชะตา เรื่องไสยศาสตร์ เรื่องวิญญาณผีนะครับ ผมไม่เชื่อแล้วผมก็ anti มาก แต่ผมเชื่อในเรื่องวิทยาศาสตร์ เรื่องสถิติ ตัวเลข ความจริง เรื่องสัจธรรม จิตวิทยา เรื่องพระพุทธศาสนาที่เป็นเรื่องของแก่น เชื่อในเรื่องเหล่านั้นนะครับ แต่ผมไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เรื่องงมงาย เมื่อผมได้ศึกษา "กฎแรงดึงดูด" จากเมื่อสักเป็นสิบปีได้แล้วจากหนังสือเล่มหนึ่ง ผมอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้วผมรู้สึกว่า กฎแรงดึงดูดเป็นกฎที่มหัศจรรย์มากเลยนะเพราะว่าผมลองดูกับตัวนะครับ อย่างเช่นระหว่างที่ผมอ่านหนังสืออยู่กำลังนั่งรถกลับบ้าน แต่ว่าผมลองนึกถึงเพื่อนตอนสมัยประถมคนหนึ่งแบบเด็ก ๆ มากเลย ผมลองนึกถึงเขาดูนะครับในหนังสือเขาบอกว่าต่อให้คุณเชื่อว่า คุณจะเห็นขนนกอยู่อันหนึ่งนะ ซึ่งมันยากที่อยู่ ๆ เราจะมาเห็นขนนกถ้าเราเชื่อว่าเราจะเห็นขนนก เราเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจอีกสักพักหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว เราจะเจอขนนก อันนั้นก็เลยลองดูเลย ก่อนหน้านี้ สมัยที่เรายังไม่ร่ำรวยอะไร เราไม่เคยนึกจะซื้อรถเบนซ์ เราก็จะมองข้ามรถเบนซ์ไป รถเบนซ์จะไม่ค่อยผ่านมาในสายตาเรา ทั้ง ๆ ที่มันผ่านวิ่งอยู่ในถนนนะ แต่เมื่อวันหนึ่งที่เราเกิดสนใจอยากจะซื้อรถเบนซ์ขึ้นมา เราเริ่มสังเกตเราเริ่มให้ความสำคัญ สมองเราฉายไฟฉายไปที่รถเบนซ์ทีนี้เมื่อเราวิ่งไปตามถนนรถเบนซ์ผ่านมาเราก็จะมอง เราเห็นใน Facebook รถเบนซ์ขึ้นมาใน feed เราก็จะมองทีนี้มันก็เลยเกิดสภาวะ "แรงดึงดูด" ก็คือสมองเราฉายไปเรื่องนั้นมันก็มีของมันอยู่แล้วล่ะ ยกตัวอย่าง เช่น ผมเป็นคนที่เกลียดแมลงสาบมาก ยิ่งเกลียดจะยิ่งเจอ คำนี้ทุกคนเคยได้ยินใช่ไหมครับ พอเราเกลียดแมลงสาบ ไฟฉายของสมองก็จะส่องไปที่แมลงสาบเวลาเข้าไปในบ้านที่ดูสกปรก สายตาเราจะกวาดมองหาแมลงสาบอยู่ตลอดเวลาจะเจอมันไหมอย่าเจอนะ อย่านะแล้วมันก็จะเจอพอเจอปุ๊บ เราก็ผลักมันอีกว่าอย่ามายุ่งกับเรานะ มันก็จะบินชาร์จใส่เราอีกเป็นหลักการของ "กฎแรงดึงดูด" ทีนี้ถามว่าอธิบายมาซะยืดยาว มันเกี่ยวกับ Facebook Algorithm อย่างไร จากที่ผมวิเคราะห์แล้วหลายคนอาจจะเคยคิดว่า Facebook ที่จับกลุ่มเป้าหมายมันจับจากการเซ็ตโปรไฟล์อย่างเดียวหรือเปล่า ก็ต้องบอกได้เลยว่าเรื่องนั้นเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ที่ Facebook ทำ แต่มากกว่านั้นก็คือ สมมติว่าวันนี้เนี่ยเราลืมตาตื่นขึ้นมาบนโลกนี้และเราก็เข้าสู่ Facebook เป็นครั้งแรก มี feed ขึ้นมา feed ที่หนึ่งเป็นเรื่องการเมือง feed ที่สองเป็นเรื่องละครดาราตีกัน feed ที่สามเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ feed ที่สี่เป็นเรื่องธุรกิจ feed ที่ห้าเป็นเรื่องการเงิน feed ที่หกเป็นเรื่องเศรษฐกิจ คำถามก็คือเราจะ interect กับอะไร หรือว่าเราจะ engage กับอะไร มีปฏิสัมพันธ์กับโพสต์ไหน ถ้าเราบอกว่าเราชอบเรื่องดาราทะเลาะกัน ดาราตีกันเลิกกัน เราก็ไปกดไลค์ใช่ไหมครับ พอเรากดไลค์ Facebook จะรู้แล้วว่า อ๋อคุณชอบเรื่องเหล่านี้ ดังนั้น เดี๋ยวจะเอา feed เรื่องเหล่านี้มาให้คุณเห็นบ่อยขึ้น ๆ แล้วมันก็จะเริ่มเอา feed ที่เกี่ยวกับการตลาด การเงิน เศรษฐกิจ เรื่องที่มีสาระต่าง ๆ ออกไปจากชีวิตเรานะครับ เพราะคุณไม่ได้สนใจเรื่องนั้นนี่ แต่คุณสนใจเรื่องดาราตีกันอ่ะ เอาไปอีก feed หนึ่งขึ้นมา การเมืองสู้กันสู้รบกัน หรือว่าข่าวอะไรก็ไม่รู้หวยอะไรก็ไม่รู้ เราก็ไป interect มันก็จะยิ่งเอาข่าวเรื่องเหล่านั้น มาหาเรามากขึ้นอันนี้ก็คืออย่างหนึ่งของกฎแรงดึงดูด แต่สมมติคุณอยากจะละจากมัน คุณก็ซ่อนมันซะปล่อยมันไปซะ คือแม้กระทั่งเราไม่ได้ interect ไม่ได้ engage เราไปหยุดดู 2-3 วิ. Facebook ก็จับเหมือนกันว่าเราสนใจบางท่านไปหยุดดูแอบไปส่อง ชอบไปส่งโปรไฟล์เพื่อน ถามว่าเขาไป interect ไหม ไม่ได้ interect engage ไหม ไม่ได้ engage แต่ทำไมเห็น feed ของเพื่อนเยอะขึ้นเพราะว่าก็แอบไปส่องไง Facebook ก็จับแล้วว่าคุณสนใจนะครับ ส่องในระยะเวลาที่มากพอ ดังนั้น เราโกหก Facebook ไม่ได้ และเราก็โกหกจิตใจตัวเองไม่ได้ โกหกกฎธรรมชาติ โกหกการทำงานของสมองไม่ได้ ถ้าคุณสนใจเรื่องการตลาดออนไลน์ สนใจเรื่องการทำการตลาดด้วย Google และ Facebook ผมก็แนะนำ ตามกฎของแรงดึงดูดว่าให้คุณกดไลค์ กดคอมเมนท์ กดแชร์ วีดีโอตัวนี้ และกด subscribe กด follow แฟนเพจ หรือว่า Youtube ของผมนะครับ เพราะว่า คุณก็จะดึงดูดคอนเทนท์ของผมเข้าไปหาคุณบ่อยขึ้น รวมถึงคุณก็จะดึงดูดความรู้ในเรื่องเดียวกันจากวิทยากรหรือว่าโค้ช กูรูท่านอื่น ๆ แหล่งความรู้ที่มาจาก official ของ Google และ Facebook ไปหาคุณด้วย ดังนั้นถ้าเห็นด้วยก็ engage กับโพสต์นี้และกด follow ไว้

Comments