У нас вы можете посмотреть бесплатно เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ) или скачать в максимальном доступном качестве, которое было загружено на ютуб. Для скачивания выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru
“เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)” … ศิลปิน เพชร โอสถานุเคราะห์ อัลบั้ม ธรรมดามันเป็นเรื่องธรรมดา ปี พ.ศ. 2530 … หากย้อนเวลากลับไปใน พ.ศ. นั้น ปี 2530 เหมือนกับว่าวงการอุตสาหกรรมเพลงไทนกำลังเริ่มก่อร่างสร้างตัว เริ่มมีค่ายเพลงเกิดขึ้นและมีศิลปินออกอัลบั้มจัดจำหน่ายพร้อมทั้งเผยแพร่ทางรายการวิทยุ และ TV … ยังพอจำได้ว่า TV สมัยนั้นมีเพียง 4 ช่อง คือ 3, 5, 7, 9 เท่านั้น และมีการเปิด-ปิดสถานีแบบเป็นช่วงเวลา ระหว่างรอเปิดสถานีช่วงหัวค่ำ ภาพ color bars ที่ค้างปรากฏบนหน้าจอพร้อมเพลงไทยสากลที่เปิดเป็น background รอเวลาจะเปิดสถานี … ยังจำได้ดีกับเพลงที่ได้ยินตอนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพลงอะไร ของใคร? แต่มีประโยคติดหูและข้อความที่ติดอยู่ในใจประมาณว่า “… ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ไม่สามารถเสกโน่นี่นั่นให้เธอ ไม่มีราชรถ ไม่ใช่เจ้าชาย ไม่มีอิทธิฤทธิ์ เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่จริงใจรักเธอ แต่จะพาเธอบินข้ามทะเล …” ซึ่งตอนนั้นฟังแล้วรู้สึกแบบเด็กๆ ว่า เพลงนี้ช่างแฟนซีจัง อารมณ์ประมาณเจ้าหญิง-เจ้าชาย (อยู่ดี … เพราะยังเด็กจำเนื้อเพลงยังไม่ค่อยได้) … หลังจากนั้นเมื่อโตขึ้นช่วงเรียนมัธยมต้นจึงได้รู้ว่าเพลงนั้นชื่อว่า “เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)” ของพี่เพชร โอสถานุเคราะห์ พร้อมกับอีกบางบทเพลง (เต้นรำ) จากอัลบั้ม “ธรรมดามันเป็นเรื่องธรรมดา” ดังกล่าว (ดิ้นกันมั้ยลุง) ที่ในยุคนั้นถือว่าเป็นเพลงล้ำสมัยมาก จนบางคนขนานนามพี่เพชรว่าเป็น “ศิลปินผู้มาก่อนกาล” … กับแนวดนตรี Techno Pop (Electronics Pop) ในเวลานั้น ช่วงปลาย 80’s จะเข้าสู่ 90’s ก็คงต้องถือว่าล้ำหน้ามากเมื่อเทียบกับศิลปินคนอื่นๆ ในประเทศไทย อัลบั้ลนี้มีพี่จ๊อด กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา หนึ่งในกลุ่มคนดนตรีหัวก้าวหน้านาม Butterfly รับหน้าที่ Producer ร่วมสร้างสรรค์งานดนตรีในอัลบั้มนี้ร่วมกันกับพี่เพชร … เพลง “เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)” ที่กลายเป็นบทเพลงอมตะตลอดกาลอาจเรียกเปรียบได้ว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของพี่เพชรก็ว่าได้ … เพลงนี้เดิมทีพี่เพชรแต่งทิ้งไว้ (ทั้งคำร้อง-ทำนอง) ตอนที่ไปเรียนอยู่ที่ Southern Illinois University สหรัฐอเมริกา เป็นเนื้อร้องภาษาอังกฤษและใช้ชื่อเพลงว่า “I’m Just a Man” … “ผมแต่งเพลงนี้ด้วยอารมณ์แบบเหงาๆ ไม่มีแฟน ไม่มีใคร อยู่ในมหาวิทยาลัยเล็กๆ รู้สึกว่าตัวเองนี่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งมากๆ” พี่เพชรพูดถึงแรงบันดาลใจของเพลงดังกล่าว … พี่เพชรเคยให้สัมภาษณ์ไว้อีกด้วยว่า “จากเพลงที่วางแผนไว้ในอัลบั้ม มีอยู่เพลงหนึ่งที่ตัดสินกันว่าจะโยนทิ้ง เอาออกจากอัลบั้ม จึงมีที่ว่าง ซึ่งต้องแต่งเพลงใหม่มาแทนที่ แต่ผมไม่มีอารมณ์แต่งเพลงใหม่แล้ว พอกลับมาบ้านคืนนั้น ก็เลยคิดถึงเพลงที่เคยแต่งไว้นานแล้วสมัยอยู่ต่างประเทศ คือ I’m Just a Man ผมเลยเขียนเนื้อร้องไทยมาใส่ทำนองเพลงนี้ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง วันรุ่งขึ้นเอามาฟังกับ Producer ก็คิดว่ามันพอใช้ได้” … และนั่นคือที่มาของเพลง “เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)” ที่ได้นำมาบรรจุอยู่ในอัลบั้มและปรากฏสู่สาธารณะชน… ในเนื้อร้องภาษาไทยที่ออกมานั้น อย่างที่เราๆ ท่านๆ ได้สัมผัสกัน มีการใช้ภาษาที่สวยงามมากๆ ใช้ภาษาเชิงกวี มีการเปรียบเทียบ/เปรียบเปรย เลือกใช้คำได้ไพเราะ ความหมายดี และยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติกแบบสุดลึกล้ำ ซึ่งคงจะเป็นเพลงโปรดของใครหลายๆ คน … แต่กระนั้นในทีแรกพี่เพชรรู้สึกแค่ในระดับเฉยๆ กับเพลงนี้ (แค่เพลงที่พอใช้ได้และนำมาเติมให้เต็มในอัลบั้ม) และช่วงที่อัลบั้มออกวางจำหน่ายเพลงนี้ก็ไม่ได้เป็นกระแสหรือฮิตติดขาร์ตเปรี้ยงปร้างอะไร … จนอีกราว 2-3 ปีต่อมาที่กระแสเพลงนี้ค่อยๆ ลอยขึ้นจนฮิตติดลมบน ขึ้นชั้นเพลงรักอมตะตราบจนปัจจุบัน และแน่นอนมันเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของพี่เพชรในเวลาต่อมาเช่นกันกับเพลงๆ นี้ ที่ทำให้ชื่อของ เพชร โอสถานุเคราะห์ ในฐานะศิลปิน-นักร้อง นักแต่งเพลง ยังยืนหยัด และยืนยาวมาตลอดระยะเวลากว่า 35-36 ปี … นอกจากบทบาทของการเป็นศิลปินแล้ว … พี่เพชร โอสถานุเคราะห์ ยังมีบทบาทหน้าที่ทั้งในการเป็นนักธุรกิจ และนักการศึกษา ซึ่ง 2 บทบาทหลังนี้ ผมมารู้และเห็นในภายหลัง ดังนั้นภาพแรกในความทรงจำที่ผมมีต่อผู้ชายที่ชื่อเพชร โอสถานุเคราะห์ คือนักร้อง-นักดนตรี-นักแต่งเพลง … ภาพพี่เพชรยืนสะพาย Keytar (คีย์บอร์ด Synthesizer แบบสะพายเล่น) บนเวทียังอยู่ในความทรงจำผม เป็นความแปลกและล้ำยุคมากในเวลานั้นที่เด็ก 10 ขวบ (คือผม) ตอนนั้นเห็นหน้าตาเครื่องดนตรีนี้ครั้งแรกๆ (ในชีวิต) … พอเริ่มโตขึ้นและทราบข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลโอสถานุเคราะห์จากตามหน้าสื่อ จึงมาทราบภายหลัง (หลังจากที่ตอนเด็กรู้จักพี่เพชรแค่ในฐานะนักร้อง) ว่าพี่เพชรเป็นทายาทบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และเคยทำหน้าที่ CEO เป็นผู้บริหารธุรกิจของทางบริษัท ก่อนที่ภายหลังจะออกมาทำงานด้านการศึกษาอย่างเต็มตัวคือทำหน้าที่อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกิจการของครอบครัว) … คุณพ่อพี่เพชร คือ คุณสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ ก็เป็นศิลปิน ท่านเป็นนักถ่ายภาพชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ได้รับรางวัลทางด้านการถ่ายภาพมามากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งยังเคยเป็นนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ … ผมว่าส่วนหนึ่งในความเป็นศิลปินในตัวของพี่เพชรคงอาจได้รับมาจากคุณพ่อไม่มากก็น้อย … น้อยคนนักที่เกิดมาในชีวิตๆ หนึ่งจะสามารถทำบทบาทอะไรได้อย่างดีในหลายๆ อย่าง หลายๆ บทบาท ซึ่งหากจะนับกันไปแล้ว เพชร โอสถานุเคราะห์ ก็คงจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนนั้นแน่ … ท้ายสุดนี้ไม่ว่าจะด้วยบทบาทใด พี่เพชร โอสถานุเคราะห์ อดีตศิลปิน-นักร้อง-นักดนตรี-นักแต่งเพลง ที่สร้างผลงานอมตะทิ้งไว้ให้โลกจดจำ หรือ คุณเพชร โอสถานุเคราะห์ อดีตผู้บริหารบริษัทมหาชน หรือ อ.เพชร โอสถานุเคราะห์ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่สร้างคุณประโชน์แก่อุดมศึกษาของประเทศอย่างไม่น้อย จะยังเป็นที่จดจำของบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในบทบาทต่างๆ ที่ได้ทำที่ผ่านมา … #เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ