Русские видео

Сейчас в тренде

Иностранные видео


Скачать с ютуб ฎีกา InTrend EP.35 ตัดต้นไม้ที่ปลูกรุกล้ำแล้วขนไปไว้ที่บ้านจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ в хорошем качестве

ฎีกา InTrend EP.35 ตัดต้นไม้ที่ปลูกรุกล้ำแล้วขนไปไว้ที่บ้านจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ 3 года назад


Если кнопки скачивания не загрузились НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru



ฎีกา InTrend EP.35 ตัดต้นไม้ที่ปลูกรุกล้ำแล้วขนไปไว้ที่บ้านจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่

ฎีกา InTrend ep.35 ตัดต้นไม้ที่ปลูกรุกล้ำแล้วขนไปไว้ที่บ้านจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี ที่ปรึกษา : สรวิศ ลิมปรังษี, สุริยัณห์ หงษ์วิไล, จีรวรรณ เจริญยศ Show Creator : นันทวัลย์ นุชนนทรี, ศณิฏา จารุภุมมิก Episode Producer & Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, ปนัสยา ชื่นอุระ Sound Designer & Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ Coordinator & Admin : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, โสรัตน์ ไวศยดำรง Art Director : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, ปันจารีณ์ สุวรรณโภชน์ ทศพร ศิลาบำเพ็ญ Webmaster : ผุสชา เรืองกูล, วชิระ โรจน์สุธีวัฒน์ การที่มีที่ดินอยู่ติดต่อกันทำให้เกิดเหตุพิพาทและมีปัญหากันอยู่เนือง ๆ ปัญหาประการหนึ่งที่เกิดขึ้นคือการปลูกต้นไม้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินที่อยู่ข้างเคียง แน่นอนว่าเจ้าของที่ดินข้างเคียงนั้นได้รับความเดือดร้อนรำคาญและได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่บริเวณนั้นได้ แต่การจะเข้าไปจัดการแก้ปัญหาอย่างไรนั้นก็คงต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังด้วย ประเด็นที่จะนำมากล่าวถึงในตอนนี้จะเป็นกรณีที่เจ้าของที่ดินข้างเคียงตัดต้นไม้ที่ปลูกรุกล้ำมาแล้วนำไปไว้ที่อื่นจะทำให้มีความผิดฐานลักทรัพย์ได้หรือไม่ แดงและดำมีที่ดินที่อยู่ติดกัน เดิมที่ดินทั้งสองแปลงเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แต่ต่อมาทั้งสองคนต้องการจะให้มีการออกโฉนดเพื่อจะได้รับรองกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวของแต่ละคน ในการดำเนินการขอออกโฉนดต้องมีการรังวัดที่ดินเพื่อจะได้ทราบแนวเขตที่ถูกต้องของที่ดินที่ขอออกโฉนดนั้นเพื่อจะได้จัดทำแผนที่ของที่ดินในโฉนดได้อย่างถูกต้อง ผลการรังวัดและสอบแนวเขตที่ดินของแดงและดำปรากฏว่าบริเวณที่แดงปลูกต้นสักไว้จำนวน 294 ต้น คิดเป็นพื้นที่ 2 ไร่เศษรุกล้ำเข้าไปอยู่ในแนวเขตที่ดินของดำ เมื่อดำทราบข้อเท็จจริงจึงได้มีหนังสือแจ้งให้แดงรื้อถอนเคลื่อนย้ายต้นสักทั้งหมดออกไปจากแนวเขตที่ดินของตน โดยบอกด้วยว่าหากไม่เคลื่อนย้ายออกไป ดำจะดำเนินการรื้อถอนต้นสักเหล่านั้นเองเพื่อจะได้นำพื้นที่ไปใช้ปลูกอ้อยแทน หลายเดือนผ่านไป แดงก็ยังไม่รื้อถอนต้นสักออกไป ดำจึงได้ตัดต้นสักลงบางส่วน ทำให้แดงไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ หาว่าดำทำให้ทรัพย์สินของตนเองเสียหาย ทั้งคู่ได้ไปเจรจากันที่สถานีตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้ว่าจะใช้สิทธิทางศาล หากผลของคดีเป็นอย่างไรก็จะปฏิบัติตามคำพิพากษา แต่หลังจากทำบันทึกดังกล่าวได้เพียงสองสัปดาห์ ดำก็ได้ตัดต้นสักทั้งหมด ภายหลังดำตัดต้นสักแล้ว ดำได้ใช้รถขนต้นสักที่ตัดแล้วบางส่วนไปไว้ที่บ้านของตนเองและนำต้นสักอีกบางส่วนไปแปรรูป แดงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์และมีการสอบสวนจนกระทั่งพนักงานอัยการฟ้องดำเป็นจำเลยต่อศาล ปัญหาในคดีนี้ที่สำคัญคงเป็นเรื่องที่ว่าการที่เจ้าของที่ดินตัดต้นไม้ของผู้อื่นที่ปลูกรุกล้ำเข้ามาในที่ดินตนเองแล้วขนย้ายไปที่อื่นนี้จะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ไปหรือไม่ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้สิ่งหนึ่งที่ไม่มีการโต้เถียงกันคือต้นสักทั้ง 294 ต้นนั้นเป็นต้นไม้ของนายแดงที่นายแดงปลูกไว้ทั้งสิ้น เพียงแต่ตอนที่ปลูกไม่มีการรังวัดพื้นที่ให้ชัดเจนทำให้นายแดงไปปลูกต้นสักเหล่านั้นในพื้นที่ของนายดำจนเป็นเหตุให้เกิดปัญหา ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างชัดเจนว่านายดำรู้ว่าต้นสักเป็นของนายแดงจึงได้มีหนังสือบอกกล่าวแจ้งให้นายแดงรื้อถอนขนย้ายต้นไม้เหล่านั้นออกไปจากพื้นที่ของตน ปัญหาคงอยู่ที่การที่นายดำทำการตัดโค่นต้นไม้ที่รุกล้ำเข้ามาด้วยตนเอง ไม่รอให้นายแดงมารื้อถอนไปตามที่ได้เคยส่งหนังสือบอกกล่าวไปเตือนนี้จะมีผลเป็นความผิดหรือไม่ หากนายดำทำเพียงแค่ตัดโค่นต้นไม้แล้วขนย้ายออกไปจากพื้นที่ของตน โดยอาจนำไปไว้ในเขตพื้นที่ของนายแดงที่อยู่ติดกันก็คงเป็นอีกกรณีที่ต่างออกไป แต่ปรากฏว่านายดำได้ขนย้ายต้นสักจำนวนหนึ่งไปไว้ที่บ้านของตัวเอง แล้วยังนำต้นสักอีกส่วนหนึ่งไปทำการแปรรูปเสียด้วย พฤติการณ์นี้นี่เองที่ทำให้เห็นว่านายดำไม่ได้เพียงแค่ต้องการจะรื้อถอนต้นไม้เพื่อใช้พื้นที่ทำไร่อ้อยอย่างที่อ้าง แต่ได้แสวงหาประโยชน์จากต้นสักที่ตัดมาเหล่านั้นด้วย เมื่อต้นสักนั้นไม่ได้เป็นของนายดำ การนำไปไว้ที่บ้านและแปรรูปจึงเป็นการแสวงประโยชน์ที่มิชอบ ทำให้การกระทำของนายดำเข้าข่ายเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ กรณีนี้คงเป็นบทเรียนที่ให้หลายคนคงต้องระวังในการจัดการกับปัญหาที่พิพาทในลักษณะทำนองนี้ที่แม้จะได้ความว่าต้นไม้ของคนอื่นมาปลูกรุกล้ำในที่ของเรา แต่การจะตัดโค่นต้นไม้แล้วนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองจะทำให้กลายเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ไป ยิ่งถ้าต้นไม้ที่ตัดมีจำนวนมากอย่างกรณีนี้ยิ่งทำให้มีความเสี่ยงที่โทษที่จะได้รับจะสูงขึ้นตามไปด้วย (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5427/2561)

Comments