Русские видео

Сейчас в тренде

Иностранные видео


Скачать с ютуб ประวัติการสร้างพระบรมมหาราชวัง The Grand Palace Thailand และ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) в хорошем качестве

ประวัติการสร้างพระบรมมหาราชวัง The Grand Palace Thailand และ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) 8 месяцев назад


Если кнопки скачивания не загрузились НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru



ประวัติการสร้างพระบรมมหาราชวัง The Grand Palace Thailand และ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

00:00 ประวัติการสร้างพระบรมมหาราชวัง 13:15 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) --------------------------------------------------------------------------------- #ประวัติการสร้างพระบรมมหาราชวัง The Grand Palace Thailand #วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีมายังตำบลบางกอกซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังหลวงขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครองประเทศ และเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรี การก่อสร้างพระราชวังหลวงเริ่มขึ้นพร้อมกับการสร้างพระนครเมื่อ พ.ศ. 2325 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นที่อยู่ของพระยาราชาเศรษฐีและชาวจีนทั้งหลาย ดังนั้น พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปอยู่สถานที่แห่งใหม่ตั้งแต่คลองใต้วัดสามปลื้มจนถึงคลองเหนือวัดสามเพ็ง เริ่มดำเนินการในวันที่ 22 เมษายน หลังพระราชพิธียกเสาหลักเมือง 1 วัน และเริ่มก่อสร้างพระบรมมหาราชวังในวันที่ 6 พฤษภาคม[3] ก่อนจะมีการเฉลิมพระราชมณเฑียรในวันที่ 13 มิถุนายน แต่ขณะนั้นพระราชมนเฑียรสร้างด้วยเครื่องไม้และสร้างเสาระเนียดรายรอบพระราชวัง เพื่อประกอบพระราชพิธีปราบดาภิเษก ต่อมาในปี พ.ศ. 2326 พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชมนเทียร พระมหาปราสาท เปลี่ยนเสาระเนียดจากเครื่องไม้เป็นก่อกำแพงอิฐ สร้างประตูรายรอบพระบรมมหาราชวัง ตลอดจนสร้างพระอารามในพระราชวังหลวงคือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เมื่อสร้างพระราชนิเวศน์มนเฑียรเป็นการถาวรแล้วโปรดเกล้าฯ ให้มีการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเต็มตามแบบแผนราชประเพณีอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. 2328 พระบรมมหาราชวังได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมขยายอาณาเขตและบูรณปฏิสังขรณ์มาในทุกรัชกาล ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พระราชอนุชา ขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงบัญญัติให้เรียกพระราชวังหลวงว่า "พระบรมมหาราชวัง" นั่นคือ ทรงบัญญัติให้ใช้คำว่า "บรม" สำหรับฝ่ายวังหลวง และ “บวร” สำหรับฝ่ายวังหน้า พระราชวังบวรสถานมงคลหรือวังหน้าจึงเรียกว่า "พระบวรราชวัง" เมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว พระราชวังหลวงก็ยังคงใช้ว่า "พระบรมมหาราชวัง" มาจนกระทั่งปัจจุบัน ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง เครื่องบินจากฝ่ายสัมพันธมิตรเข้าทิ้งระเบิดโจมตีสถานที่อันเป็นจุดยุทธศาสตร์อันรวมถึงพระบรมมหาราชวัง โดยเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2487 มีลูกระเบิดมาตกในเขตพระบรมมหาราชวังข้าง ๆ พระพุทธรัตนสถาน ทำให้โครงสร้างหลังคาได้รับความเสียหาย ปัจจุบันพระบรมมหาราชวังมิได้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีแล้ว เนื่องจากมีสิ่งปลูกสร้างอยู่อย่างแออัด ทำให้ขวางทางลม ในฤดูร้อน ที่ประทับในพระบรมมหาราชวังจึงร้อนจัด ทำให้พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ประชวรกันอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายที่ประทับถาวรไปอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือระหว่างคลองผดุงกรุงเกษมกับคลองสามเสน คือพระราชวังดุสิต และเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีมาจนถึงปัจจุบัน วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือเรียกสามัญว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2325 พร้อมกับการสร้างพระบรมมหาราชวัง และกรุงรัตนโกสินทร์ สืบตามราชประเพณีการสร้างพระอารามในพระราชฐานสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีพระราชประสงค์จะให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิทำด้วยมณีสีเขียวสดใสเนื้อเดียวกันทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 48.3 เซนติเมตร สูงจากฐานถึงยอดพระเศียร 66 เซนติเมตร ซึ่งทรงมีพระราชศรัทธาเคารพเลื่อมใสเป็นที่ยิ่ง ทั้งยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระนามใหม่ให้ต้องกับการมีพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรพระองค์นี้เป็นศิริสำหรับพระนครว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา” อันมีความหมายว่า “เป็นที่เก็บรักษาไว้ขององค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” รัชกาลที่ 1 ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามพร้อม ๆ กับการสร้างพระราชมณเฑียรและป้อมปราการในพระบรมมหาราชวัง แต่สิ่งก่อสร้างในพระบรมมหาราชวังครั้งแรกนั้นเป็นเครื่องไม้ทั้งสิ้น เว้นแต่วัดพระแก้วเท่านั้นที่ก่ออิฐถือปูน วัดพระแก้วสร้าง 2 ปีก็เสร็จลงในปี พ.ศ. 2327 ภายในวัดประกอบด้วยพระอุโบสถ ( มีภาพเขียนฝาผนัง ) พระระเบียงรอบวัด ( ผนังเขียนเรื่องรามเกียรติ์ ) หอมณเฑียรธรรมตั้งอยู่กลางสระน้ำด้านเหนือของพระอุโบสถ พระเจดีย์ทอง 2 องค์ ตั้งอยู่หน้ามณเฑียรธรรม หอระฆังตั้งอยู่ด้านขวาของพระอุโบสถ ระฆังซึ่งนำมาจากวัดสระเกศ ศาลาราย 12 หลัง และทรงโปรดให้เชิญพระเทพบิดา คือ พระรูปสมเด็จพระรามาธิบดี (อู่ทอง) ซึ่งเป็นปฐมวงศ์สร้างกรุงเก่า มาแปลงเป็นพระพุทธรูปหุ้มเงิน ปิดทอง ประดิษฐานไว้ในพระวิหาร พระวิหารนั้นพระราชทานนามว่า “หอพระเทพบิดร” วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด การบูรณะครั้งใหญ่ทั้งพระอาราม มีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเนื่องจากวัดชำรุดทรุดโทรมลงมาก และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณะเพื่อเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2425 #เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ

Comments