У нас вы можете посмотреть бесплатно 670830 เขื่อนเจ้าพระยาประระดับน้ำเพิ่ม ด้าน ชป 12 เผยให้เฝ้าระวังปริมาณฝนตกหนักในช่วงต้นเดือนกันยายน или скачать в максимальном доступном качестве, которое было загружено на ютуб. Для скачивания выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru
เขื่อนเจ้าพระยาประระดับน้ำเพิ่ม ด้าน ชป.12 เผยให้เฝ้าระวังปริมาณฝนตกหนักในช่วงต้นเดือนกันยายน นี้ และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในช่วงฤดูน้ำหลาก วันนี้ 30 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำเพื่อรอรับมวลน้ำจากทางภาคเหนือ ด้านสำนักงานชลประทานที่ 12 กรมชลประทาน เผยเฝ้าให้ติดตามปริมาณฝนที่จะตกในช่วงต้นเดือนกันยายน แนะพื้นที่ลุ่มต่ำให้เฝ้าระวังเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในช่วงฤดูน้ำหลาก สำหรับปัจจุบันสถานการณ์น้ำที่ สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,311 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 15.91 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 12.10 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 4.24 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ด้าน นายวิชัย ผันประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า สำหรับมวลน้ำในแม่น้ำยม ที่ จังหวัดสุโขทัย จะเห็นได้ว่ามีปริมาณน้ำมีมาก และไหลเร็ว หากมวลน้ำดังกล่าวไหลลงมายังแม่น้ำน่านและแม่น้ำเจ้าพระยา การไหลของน้ำก็จะเป็นการทยอยไหลลงมาที่เขื่อนเจ้าพระยา และจะมีเขื่อนเจ้าพระยาเป็นตัวควบคุม โดยทางกรมชลประทานได้มีการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์น้ำรายวันอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สำหรับหากว่ามวลน้ำดังกล่าวไหลลงมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา ทางกรมชลประทานได้มีการวิเคราะห์ และระบายน้ำไม่เกิน 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งในส่วนนี้ทางพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนตั้งแต่เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำเพิ่มจาก 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็จะเริ่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ตั้งแต่บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และแม่น้ำน้อย ที่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นไป ในส่วนนี้ก็ต้องเฝ้าระวังปริมาณฝนที่จะตกมากขึ้น โดยฝนดังกล่าวอาจจะตกต่อเนื่องไปถึงห่วงเดือนตุลาคม และ พฤศจิกายน ด้วย ทั้งนี้ทางสำนักงานชลประทานที่ 12 โดยกรมชลประทาน ก็ขอให้ทางภาครัฐและเอกชน ที่ประกอบกิจการในลำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ว่าจะเป็น การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพรปลา รวมไปถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำของลำน้ำเจ้าพระยา เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ช่วงฤดูของน้ำหลาก ก็ขอให้เฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และหากได้รับผลกระทบก็สามารถประสานโครงการชลประทานในพื้นที่ และสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอด ส.ปชส.ชัยนาท