У нас вы можете посмотреть бесплатно พุทธอุษณียวิชัยธารณี 大佛頂尊勝陀羅尼 (คำอ่าน พร้อมที่มาโดยสังเขป) или скачать в максимальном доступном качестве, которое было загружено на ютуб. Для скачивания выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru
จาก 尊勝陀羅尼流布緣起 ในสมัยราชวงศ์ถังที่ ๑๑ ของกษัตริย์ถังไท่จง(ปี พ.ศ.๑๓๑๙) จารึกว่า ทรงมีพระบรมราชโองการให้เหล่าภิกษุณีใต้หล้าจักต้องสาธยายธารณีนี้ ๒๑ จบทุกวัน เมื่อครบกำหนดทุกปีในวันที่ ๑ เดือน ๑ ตามจันทรคติต้องยื่นถวายรายงาน . ธารณีนี้ถือเป็น ตรีมหาธารณี คือธารณีที่ยิ่งใหญ่ ๓ บท มี ๑.มหากรุณาธารณี大悲陀羅尼๒. มหา วิชย พุทธอุษฺณีษ ธารณี大佛頂尊勝陀羅尼และ ๓.ศานฺติก ศรีเย ธารณี 消災吉祥神咒 ที่พุทธศาสนิกชนต้องสาธยายเป็นบททำวัตร . บันทึกของพระจื้อจิ้ง (志靜) แห่งวัดติ้งเจวี๋ย (定覺寺) ในสมัยราชวงศ์ถังของจีน กล่าวไว้ว่า พุทธอุษณียวิชัยธารณีสูตรนี้ พระพุทธปาลิต (佛陀波利) ชาวเมืองกปิศา อินเดียเหนือ ได้จาริกมาถึงพุทธคิรีอู่ไถ(五臺山) มณฑลซานซี ประเทศจีน ในปี อี้เฟิ้งที่ 1 (儀鳳元年) ตรงกับพุทธศักราชที่ 1219 ตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าถังไทจง ด้วยการกราบเบญจางคประดิษฐ์มุ่งหน้าสู่พุทธคิรี แล้วคิดว่า “หลังจากพระพุทธปรินิพพานแล้ว บรรดาพระอริยเจ้าก็หลีกเร้น จะมีก็แต่พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ ที่สถิตปรากฏอยู่ในพุทธคิรีอู่ไถแห่งนี้ เพื่อสั่งสอนสรรพสัตว์และหมู่พระโพธิสัตว์ ข้าพเจ้ามีความมุ่งมั่นอย่างนี้ แม้จะเจอภัยอันตรายนานาประการ แต่ก็ยังไม่ได้พบพระโพธิสัตว์ ได้เพียรเดินทางแสนไกลด้วยศรัทธา ผ่านสายน้ำ ทะเลทราย ขอปรารถนาได้พบพระองค์ผู้ทรงมหาเมตตากรุณา” . เมื่อกล่าวจบ ก็ร่ำไห้แล้วกราบไปทางพุทธคิรีอู่ไถ เมื่อเงยศีรษะขึ้นก็ได้พบคนชราผู้หนึ่ง เดินออกมาจากภูเขา ตรงเข้ามากล่าวว่า “พระอาจารย์มีจิตเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา มุ่งมั่นมาคารวะยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก แต่ทว่าหมู่สัตว์ในบูรพประเทศ (หมายถึง จีน) กระทำบาปเป็นอันมาก ผู้ออกบวชก็ละเมิดพระธรรมวินัย เห็นมีเพียง พุทธอุษณียวิชัยธารณีสูตร ที่สามารถดับอกุศลทั้งปวงของหมู่สัตว์ ไม่ทราบว่าพระอาจารย์ ได้นำพระสูตรนี้มาด้วยหรือไม่” . พระพุทธปาลิตตอบ “อาตมาเดินทางมาเพียงนมัสการ ไม่ได้นำพระสูตรมาด้วย” คนชราตอบ “หากท่านไม่ได้นำพระสูตรมา ก็ศูนย์ซึ่งประโยชน์ แม้นได้พบพระมัญชุศรี ก็ไม่รู้จัก พระอาจารย์พึงหวนกลับปัจฉิมประเทศ (หมายถึง อินเดีย) เพื่อนำพระสูตรนี้มาเผยแผ่ ถ่ายทอดยังบูรพประเทศ จึงจะเป็นการยังประโยชน์ให้แก่สรรพสัตว์ได้อย่างกว้างขวาง จะฉุดช่วยสัตว์ในยมโลก สนองกตเวทิตาคุณแห่งพระพุทธองค์ ก็เมื่อใดที่พระอาจารย์นำพระสูตรมายังสถานที่นี้ ศิษย์จะบอกที่ประทับของพระมัญชุศรีแก่พระอาจารย์” . เมื่อพระพุทธปาลิตได้ยินอย่างนี้ ก็ยินดีปราโมทย์ยิ่งกว่าสิ่งใด หลั่งน้ำตาด้วยความปีติ ก้มศีรษะลงกราบ แต่เมื่อเงยศีรษะขึ้นก็ไม่พบคนชราผู้นั้นแล้ว ทำให้ตกใจและยิ่งทวีความศรัทธา แล้วจึงเดินทางกลับอินเดียเพื่ออัญเชิญ พุทธอุษณียวิชัยธารณีสูตร และเดินทางกลับมาถึงจีนเมื่อปีศักราช ย้งชุน (永淳) ที่ 2 หรือปีพุทธศักราช 1226 (แต่บางตำราว่าท่านกลับมาถึงจีนเมื่อปีอี้เฟิ้งที่ 4 พุทธศักราชที่ 1222) เมื่อความทราบถึงฮ่องเต้ จึงมีรับสั่งให้นำพระสูตรนี้เก็บไว้เป็นการภายใน แล้วอาราธนาพระตรีปิฎกธราจารย์ ชื่อ พระทิวากร พร้อมเหล่าบัณฑิตร่วมแปลพระสูตรนี้ และพระราชทานผ้า 30 พับ แต่ด้วยการที่ทรงห้ามมิให้พระสูตรนี้แพร่หลายไปสู่ภายนอก พระพุทธปาลิต จึงร่ำไห้พลางทูลว่า “อาตมา เสี่ยงชีวิตนำพระสูตรนี้มาจากระยะทางแสนไกล หวังเพื่อจะอนุเคราะห์สรรพชีวิต ไม่ได้หวังลาภหรือยศใดๆ ทั้งปรารถนาให้พระสูตรนี้ขจรไป เพื่อสรรพสัตว์ได้รับประโยชน์ร่วมกัน องค์มหาบพิตรทรงมีพระประสงค์ให้มอบพระสูตรฉบับแปลนี้ไว้เป็นการเฉพาะ อาตมาจึงขอพระราชทานต้นฉบับภาษาสันสกฤตกลับคืน เมื่อได้ต้นฉบับคืนแล้ว จะนำไปที่วัดซีหมิง (西明寺) เพื่อพบพระซุ้นเจิน (順貞) ผู้เชี่ยวชาญการอรรถาธิบายศัพท์สันสกฤต แล้วร่วมกันแปลพระสูตรนี้” ฮ่องเต้จึงพระราชทานตามนั้น พระพุทธปาลิตและพระซุ้นเจิน พร้อมด้วยหมู่เถระจึงร่วมกันแปลจนแล้วเสร็จ จากนั้นพระพุทธปาลิตได้นำต้นฉบับ พุทธอุษณียวิชัยธารณีสูตร ภาษาสันสกฤตมุ่งสู่พุทธคีรีอู่ไถ และไม่ออกจากภูเขาอีกเลย . เวลานั้น (สมัยถัง) มีพระสูตรแปลอยู่ 2 สำนวน คือ ฉบับที่ถวายฮ่องเต้ และฉบับแปลใหม่ที่ปรากฏขึ้นในโลก ฉบับเหล่านั้นมีอยู่บางคำที่ต่างกัน แต่ก็ถือว่าน้อยมาก ในปีชุยก่ง (垂拱) ที่ 3 อาตมาพระจื้อจิ้ง เจ้าอารามจิ้งเจวี๋ย เหตุที่ได้พำนักอยู่ที่ อารามกั๋วตง (神都魏國東寺) จึงทำให้ได้อยู่ใกล้ชิดพระตรีปิฎกธราจารย์ทิวากร เมื่อสอบถามจึงได้ความตามเบื้องต้นนั้น และได้ขอเมตตาพระทิวากรถ่ายทอดธารณีนี้ พระทิวากรจึงสาธยายเป็นสำเนียงสันสกฤต ผ่านไป 14 วัน จึงจำทรงไว้ได้ทุกประโยค ไม่ผิดพลาดแม้แต่หนึ่งเดียว และยังได้เอาต้นฉบับเดิมภาษาสันสกฤตไว้เทียบเคียงอีกด้วย บรรดาการถอดเสียงที่ผิดเพี้ยนก็ได้แก้ไขถูกต้องแล้วทั้งสิ้น อีกตัวธารณีก็มิต้องแก้ไขอีก เพราะถูกต้องแล้ว...(จบข้อความบันทึกที่ยกมา) และยังมีสำนวนแปลของท่านอื่นๆ อีก 7 สำนวน แต่ทว่าฉบับของพระพุทธปาลิต ที่นำมาแปลในเล่มนี้เป็นที่แพร่หลายที่สุด ในพิธีโยคะตันตระ มุขชวาลเปรตพลี 瑜伽焰口 กล่าวว่า เมื่อปางบรรพพระเถระ (พระพุทธปาลิต)ได้มายังบูรพประเทศ(จีน) โดยได้รับการชี้แนะจากพระมัญชุศรี บูรพประเทศหากไร้ซึ่งวิชยธารณีแล้วไซร้ วิญญาณอนาถาก็ยากหลุดพ้น「昔日(西域)尊者往東來,卻被文殊化引開,東土若無尊勝咒,孤魂難以脫塵埃。」 . อาจารย์เสถียร โพธินันทะ กล่าวว่า “อุณหิสวิชัยสูตร” สูตรนี้เลือนแปรมาจาก “อุษณีวิชัยธารณี” ในภาษาสันสกฤตของมนตรยานอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ตัวคาถากลับแต่งเป็นบาลีและไม่มีเค้าเหมือนฝ่ายสันสกฤตเลย เข้าใจว่าจะเป็นด้วยท่านผู้แต่งคงไม่ได้ฉบับสันสกฤตมาเป็นแบบเป็นราก แต่คงได้ทราบความขลังความศักดิ์สิทธิ์ของอุษณีย์วิชัยธารณีมาเป็นอย่างดี จึงได้คิดแต่งเป็นสูตรในบาลีขึ้น ที่จะแต่งในลังกาหรือในเมืองไทยนี้เอง ... (จาก...หนังสือกระแสมนตรยานในนิกายเถรวาท) พระวิศวภัทร (廣度法師) มูลนิธิพุทธจักษุวิชชาลัย อารามวัตรมหายาน