Русские видео

Сейчас в тренде

Иностранные видео


Скачать с ютуб รวมอาณาจักรที่หายสาบสูญ ทางเหนือไทยลาวและบางที่ยังคงเหลือร่องรอยอยู่ในปัจจุบัน в хорошем качестве

รวมอาณาจักรที่หายสาบสูญ ทางเหนือไทยลาวและบางที่ยังคงเหลือร่องรอยอยู่ในปัจจุบัน 10 месяцев назад


Если кнопки скачивания не загрузились НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу страницы.
Спасибо за использование сервиса savevideohd.ru



รวมอาณาจักรที่หายสาบสูญ ทางเหนือไทยลาวและบางที่ยังคงเหลือร่องรอยอยู่ในปัจจุบัน

#โยนกนคร ตำนานเวียงหนองหล่ม สปป. #ลาวขุดพบพระพุทธรูป ใต้น้ำโขง เชื่อว่าคือ #พระพุทธเจ้าล้านตื้อ ที่สูญหายจริงหรือ..? #ตำนานเมืองเชียงแสน #ลาว #พระพุทธรูปองค์ใหญ่ โยนกนครไชยบุรีราชธานีศรีช้างแส่น หรือ แคว้นโยนก (พ.ศ. 1200–1650) เป็นรัฐของชาวไทยวน ชาวไทยวนเป็นประชากรที่พูดภาษาตระกูลภาษาขร้า-ไทกลุ่มหนึ่ง ตั้งถิ่นฐานทางตอนเหนือของประเทศไทยซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนา เป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักร ปัจจุบันชาวไทยวนเป็นพลเมืองหลักในภาคเหนือของประเทศไทย มักเรียกตนเองว่า "คนเมือง" ซึ่งเป็นคำเรียกที่เกิดขึ้นในยุคเก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง เพื่อฟื้นฟูประชากรในล้านนาหลังสงคราม โดยการกวาดต้อนกลุ่มคนจากที่ต่าง ๆ เข้ามายังเมืองของตน โยนกนครที่ตั้งอยู่แถบลุ่มน้ำโขงตอนกลาง อันเป็นที่ราบลุ่มของน้ำแม่กก เป็นที่ตั้งแหล่งชุมชนที่มีมาอย่างช้านานซึ่งเป็นอาณาจักรแรกของชนชาติไทย ตั้งแต่ประมาณปี 1200-1650 อาณาจักรโยนก ก็ล่มสลายลงเมื่อเกิดการแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จากการล่มสลายของเวียงโยนกไชยบุรีศรีช้างแส่น และสิ้นราชวงศ์สิงหนติแล้ว ขุนพันนา และนายบ้านกลุ่มชนที่เหลือรอดได้อพยพมาสร้างเมืองใหม่ นำโดยขุนลัง ริมฝั่งแม่น้ำโขงฝั่งตะตก และอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโยนกนครฯ เรียกว่าเวียงเปิกสา (เวียงปรึกษา) หรือเวียงเชียงแสนน้อย โดยผู้ที่ครองเวียงเปิกสานั้น จะต้องได้รับการเปิกสา(ปรึกษา) คัดเลือกจากประชาชนในเมืองทั้งหมด คล้ายกับแนวทางของระบอบประชาธิปไตย เรียกว่า ไพร่แต่งเมือง รวมเป็นขุนผู้ครองเวียงเปิกสา 16 คน แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีในเวียงเปิกสา(ปรึกษา) มีความเก่าถึงแค่ยุคล้านนาเท่านั้น ไม่ได้มีอายุเท่าตามที่ตำนานอ้าง .............................................................................................................. #สุวรรณโคมคำ อาณาจักรโบราณที่สาบสูญก่อนมีประเทศไทย! “สุวรรณโคมคำ” กำเนิดจากแม่ลูกถูกลอยแพ นี่ไม่ใช่นิทาน และไม่ใช่นิยาย แต่เป็นเรื่องราวของเมืองโบราณ ที่กรมศิลปากรได้จัดแปลมาจากภาษาไทยเหนือ รวมอยู่ในประชุมพงศาวดารเป็นภาคที่ ๗๒ ในชื่อ “ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ” เป็นเมืองหนึ่งซึ่งได้กลายเป็นอาณาจักรที่สาบสูญไปก่อนที่จะมีประเทศไทย แม้ในตำนานนี้จะไม่ได้ระบุชัดว่าเมืองสุวรรณโคมคำเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ใน “ตำนานสิงหนวัติ” กล่าวว่า ในสมัยต้นพุทธกาล สิงหนวัติกุมาร โอรสของพระเจ้าเทวกาลแห่งนครราชคฤห์ ได้เสด็จออกจากเมืองมาทางตะวันออกเฉียงใต้จนใกล้แม่น้ำโขง ถึงแคว้นที่มีชื่อว่าสุวรรณโคมคำซึ่งเป็นเมืองร้างไปแล้ว และได้สร้างเมืองโยนกเชียงแสนขึ้นตรงนั้น แสดงว่าเมื่อสมัยต้นพุทธกาล เมืองสุวรรณโคมคำก็เป็นเมืองร้างไปแล้ว จิตร ภูมิศักดิ์ ซึ่งศึกษาตำนานเมืองสุวรรณโคมคำและตำนานสิงหนวัติ เชื่อว่าเมืองสุวรรณโคมคำอยู่บนเกาะใหญ่ในแม่น้ำโขงชิดไปทางฝั่งประเทศลาว ตอนดอนมูลปากแม่น้ำแม่กกไปทางใต้เล็กน้อย ตรงข้ามกับบ้านสวนดอก อำเภอเชียงแสนในปัจจุบัน “ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ” กล่าวถึงองค์อินทร์ปฐมราช เจ้าเมืองโพธิสารหลวง มีมเหสีชื่อว่าพระนางอุรสาเทวี มีโอรสด้วยกัน ๖ พระองค์แล้ว ต่อมาพระนางอุรสาเทวีก็ทรงครรภ์อีกเป็นครั้งที่ ๗ องค์อินทร์ทรงโสมนัสยินดีพระทัยดำรัสให้พระนางรักษาครรภ์ให้ดี เมื่อกำหนดครบทศมาส นางก็เจ็บครรภ์พร้อมกับเกิดแผ่นดินไหว นางสนมทั้งหลายจึงเอาถาดทองคำมารองรับพระกุมารที่คลอดออกมา แต่พระกุมารก็ไม่ได้คลอดเหมือนมนุษย์ธรรมดา ประสูติออกมาทางมุขทวารของพระมารดา และไม่มีโลหิตแปดเปื้อนแต่อย่างใด เหมือนล้างไว้แล้วฉะนั้น เมื่อพระนางอุรสาเทวีให้นางสนมไปกราบทูลพระสวามีให้ทรงทราบ องค์อินทร์ปฐมราชก็อัศจรรย์พระทัย รับสั่งให้พราหมณ์ปุโรหิตมาเฝ้า แล้วดำรัสถามว่า บุตรของเราเกิดมาในวันนี้ไม่เหมือนมนุษย์ทั้งหลาย เกิดมาทางมุขทวารของมารดา ฉะนี้จักเป็นร้ายประการใด ....................................................................................................... #ตํานานกว๊านพะเยา | พระพุทธเจ้าเคยมาประทับที่นี่จริงหรือ..? ก่อนที่จะเป็นกว๊านพะเยาในวันนี้ พื้นที่แห่งนี้เดิมมีสภาพเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำอิง ที่ประกอบไปด้วย“บวก”อันเป็นพื้นที่น้ำขังขนาดเล็ก และ“หนอง” ที่เป็นพื้นที่น้ำขังขนาดใหญ่ โดยมี “หนองเอี้ยง” เป็นหนองน้ำที่สำคัญที่สุด หนองเอี้ยงได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของกว๊านพะเยา ซึ่งในนิทานกว๊านพะเยา ได้เล่าถึงชื่อของหนองเอี้ยงว่ามีที่มาจากสองเรื่องเล่าด้วยกัน เรื่องแรก เล่าว่า คราวเมื่อพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญานกเอี้ยงสีทอง กว๊านพะเยาเป็นทะเลสาบน้ําจืดที่ใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือตอนบน และใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศไทยโดยมีบึงบอระเพ็ดจังหวัดนครสวรรค์ ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง หนองหานจังหวัดสกลนคร ใหญ่เป็นอันดับสอง และบึงระหาร ที่จังหวัดชัยภูมิใหญ่เป็นอันดับสามและใหญ่เป็นอันดับสี่ ก็คือที่กว๊านพะเยาจังหวัดพะเยานั่นเอง กว๊าน เยามีพื้นที่มากถึง หนึ่งหมื่นสองพันแปดร้อยสามสิบเอ็ดไร่หรือประมาณยี่สิบจุดห้าตารางกิโลเมตร คําว่ากว้านตามภาษาพื้นเมืองในทางภาคเหนือนั้นหมายถึงบึง หรือหนองน้ําขนาดใหญ่ ซึ่งเพี้ยนมาจากคําว่ากว้านแปลว่า รวบรวม รวมสิ่งต่าง ๆมาไว้เป็นจํานวนมาก อาศัยอยู่ในกว๊านพะเยาแห่งนี้ด้วยเหตุที่กว๊านพะเยามีปลามากมายหลายชนิดเช่นนี้ จึงทําให้เมืองพะเยาเป็นแหล่งผลิตปลาส้มที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว กว๊านพะเยาแต่ก่อนนั้นเป็นที่ราบลุ่มต่ํามีหุบมีหนอง มีทางน้ําไหลผ่านมีลําห้วยลําธาร มีแม่น้ําเชื่อมถึงกันเป็นจํานวนมากถึงสิบแปดสายมีแม่น้ําสายหลักก็คือแม่น้ําอิง เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ

Comments