Скачать с ютуб สอนวิธีเรียกค่าชดเชย รถโดนชน เป็นฝ่ายถูก ต้องส่งซ่อมไม่มีรถใช้ ยื่นเรื่องให้เป็นได้เงินชดเชยก้อนใหญ่ в хорошем качестве

สอนวิธีเรียกค่าชดเชย รถโดนชน เป็นฝ่ายถูก ต้องส่งซ่อมไม่มีรถใช้ ยื่นเรื่องให้เป็นได้เงินชดเชยก้อนใหญ่

เมื่อรถของคุณเกิดอุบัติเหตุ และคุณคือฝ่ายถูก แต่รถของคุณเสียหาย จนต้องนำรถไปซ่อมอยู่หลายเดือน ซึ่งระหว่างนั้น คุณไม่มีรถใช้งาน คุณต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ หรืออาจจะเสียค่าใช้จ่ายยุบยิบหยุมหยิมไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทั้งๆ ที่คุณเป็นฝ่ายถูก และเป็นฝ่ายขับขี่อย่างปลอดภัย แต่คุณรู้หรือไม่ คุณมีสิทธิ์ได้เงินมากสุดถึงหลักแสน! ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร? เราจะอธิบายให้ฟังง่ายๆ อย่างนี้ ที่ผ่านมา ประชาชนทั่วไปอาจจะไม่ทราบ และไม่เข้าใจว่า “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” คืออะไร ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ก็คือ เงินชดเชยจากการเกิดอุบัติเหตุที่ฝ่ายถูก สามารถเรียกร้องจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณี(ฝ่ายผิด) เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงที่รถต้องนำไปซ่อม หรือในช่วงที่ไม่มีรถใช้ และต้องดูว่ารถคู่กรณีที่ชนรถเรามีประกันภาคสมัครใจหรือไม่ ถ้ามี และเป็นฝ่ายผิด ก็สามารถเรียกค่าขาดประโยชน์ได้ ทีมงานของเรามีโอกาสพูดคุยกับ นายชัยยุทธ มังศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ถึงรายละเอียดของ “การเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ และเรียกร้องอย่างไรให้ได้ 100%” โดย คปภ. ได้กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ แบ่งไว้ 3 กลุ่ม ดังนี้ - กลุ่มที่ 1 รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท - กลุ่มที่ 2 รถยนต์รับจ้างสาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท - กลุ่มที่ 3 รถยนต์ขนาดเกินกว่า 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท ยกตัวอย่าง คุณขับรถเก๋ง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ 500 บาท รถของคุณส่งซ่อม 60 วัน เท่ากับว่า คุณจะได้เงินจากบริษัทประกันของคู่กรณีจำนวน 30,000 บาท ส่วน–ขั้นตอนการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ต้องทำอย่างไร นายชัยยุทธ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ อธิบายให้เล่าฟังไว้อย่างละเอียด แต่เราจะสรุปให้ฟังง่ายๆว่า 1. เตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วน ซึ่งเอกสารที่สำคัญๆ ก็คือ รูปถ่ายตอนเกิดเหตุ, ใบเคลม, ใบแจ้งซ่อม, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนรถ 2. รวบรวมค่าใช้จ่ายในช่วงที่ต้องนำรถไปซ่อม เช่น ค่าเดินทางที่เพิ่มขึ้นเพราะไม่มีรถยนต์ใช้, รายได้ที่หายไป เพราะขาดรถยนต์ที่ใช้ประกอบอาชีพ ซึ่งข้อนี้สำคัญมาก ถ้าคุณมีหลักฐานการเช่ารถครบถ้วน และคุณเช่ารถมาวันละ 700 บาท รถส่งซ่อม 120 วัน คุณจะได้เงิน 84,000 บาท 3.แจ้งความจำนง ยื่นเรียกสินไหมจากบริษัทประกันของคู่กรณี ก็คือ คุณเดินทางไปที่สำนักงานของบริษัทประกันคู่กรณี กรอกแบบฟอร์มเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ระหว่างซ่อม พร้อมเอกสารทั้งหมดที่คุณเตรียมไว้ และมอบให้เจ้าหน้าที่ 4. จากนั้นคุณก็ รอบริษัทประกันของคู่กรณีติดต่อกลับ และเขาก็จะส่งเอกสารมาให้คุณเซ็น และเขาก็จะจ่ายค่าชดเชยในรูปแบบของเงินสด เช็ค หรือโอนเงินเข้าบัญชี อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทประกันของคู่กรณีติดต่อกลับมา คุณอาจจะโดนต่อรองราคา ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจำนวน 90,000 บาท แต่ทางบริษัทประกันของคู่กรณี เสนอชดใช้เงินเพียง 40,000 บาท และถ้านาย ก. ไม่ยอมรับเงิน 40,000 บาท คุณสามารถร้องเรียนไปที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้ คปภ. ช่วยไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ -------------------------------------------------- ชี้ช่องทางธุรกิจ พลิกชีวิต รอดไปด้วยกัน! ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.30 น. #รอดไปด้วยกัน #รอดไปด้วยกันเศรษฐกิจชาวบ้าน #ทินโชคกมลกิจ รายละเอียดเพิ่มเติม https://ch3thailandnews.bectero.com/n...